www.zeedcondom.com

วันอาทิตย์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ทำไมวัยรุ่น ไม่ชอบใช้ ถุงยางอนามัย?


ทำไมวัยรุ่น ไม่ชอบใช้ ถุงยางอนามัย?
          ความจริง "คนนอก" อย่างเราจะไปรู้ได้อย่างไรว่า ใครจะใส่ถุงยางอนามัยหรือไม่เวลาปฏิบัติกามกิจ เพราะเรื่องแบบนี้น่าจะมีแต่ "คนวงใน" เท่านั้นที่รู้ และรู้กันอยู่แค่ 2 คนเท่านั้น
          แต่หากจะว่ากันตาม "ผลสำรวจ" ก็มีอยู่หลายชิ้นที่บอกว่า มีคนอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะวัยรุ่น หนุ่มสาวที่ไม่ชอบ "สวมถุงยางอนามัย" เวลามีเพศสัมพันธ์ ด้วยเหตุผลร้อยแปดพันเก้า
          แต่วันนี้ เรามีผลสำรวจอีกชิ้นหนึ่ง ซึ่งให้ "เหตุผล" น่าสนใจดีว่า ที่วัยรุ่นไม่ค่อยชอบใช้ถุงยางอนามัยนั้น ไม่ใช่เพราะประมาท ไม่ใส่ใจ หรือ หาซื้อไม่สะดวก อย่างที่เคยมีผลสำรวจออกมา แต่เป็นเรื่องของมุมมอง ความเชื่อ และ ทัศนคติในสังคม มากกว่า โดยมีวัยรุ่น วัยเจริญพันธุ์อายุต่ำกว่า 25 มองการใช้ถุงยางอนามัย เป็นเรื่องของการ "ไม่เชื่อใจ" กัน
          ขณะที่มีบางคนยังมองว่า การพก หรือ มีถุงยางอนามัยติดตัว แสดงว่า เคยมีประสบการณ์ทางเพศมาแล้ว ซึ่งถ้าหากเป็นผู้ชาย นี่ก็อาจจะกลายเป็นการ "เพิ่มเรตติ้ง" ทำให้ผู้ชายดูเป็นผู้มีประสบการณ์ ช่ำชอง แต่ลองเป็นผู้หญิงดูสิ หากเจอเรื่องแบบนี้ ก็มีแต่เสียหาย... เสียหาย และ เสียหายลูกเดียว!!!
          นี่เป็นผลสำรวจจากทีมนักวิจัยของโรงเรียนการแพทย์ London School of Hygiene and Tropical Medicine ในอังกฤษที่ทำการสำรวจศึกษาพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น 250 คน แล้วก็พบปัจจัยคล้ายๆ กันนี้ในวัยรุ่นหลายประเทศ
          "การศึกษาของเรา ก็เพื่อรวบรวมปัจจัยที่น่าเป็นไปได้ต่างๆ เพื่อช่วยให้เราเข้าใจพฤติกรรมทางเพศของวัยรุ่น และเข้าใจว่าทำไมพวกเขาจึงมีเพศสัมพันธุ์ที่ไม่ปลอดภัย"" ดอกเตอร์ซิเซลีย์ มาร์ตัน และ เอลีเนอร์ คิง กล่าวในรายงานผลสำรวจ ตีพิมพ์ในวารสารการแพทย์ เดอะ แลนเซ็ต
          ในผลการศึกษาดังกล่าว ซึ่งได้มาจากการเฝ้าเก็บข้อมูลตั้งแต่ปี 2533-2547 รวมเวลาถึง 14 ปี นักวิชาการทั้งสอง ยังพบด้วยว่า วัยรุ่นไม่ว่าชาย หรือ หญิง จะ "ประเมิน" ว่า ตนควรจะใช้ถุงยางอนามัยหรือไม่ หรือ คู่ของตนมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือไม่ โดยดูจาก บุคลิก ท่าทางของอีกฝ่ายว่า ดูดี ดูน่าไว้ใจแค่ไหน หรือไม่ก็ประเมินจาก ความสนิท รู้จักมักคุ้นกัน ซึ่งจริงๆ แล้ว ล้วนเป็นคุณสมบัติที่ใช้ "วัด" ความน่าเชื่อถือในเรื่องทำนองนี้ไม่ได้เลย!!!
          คราวนี้ หากจะหันมาดูกันเรื่อง "ความเท่าเทียม" กันระหว่างชาย-หญิงในเรื่องเพศสัมพันธ์ ยังพบว่า ส่วนใหญ่ ผู้ชายจะมี "อิสระ" ทางเพศกว่าผู้หญิงแยะมาก นอกจากนั้น ในหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ, ออสเตรเลีย, เม็กซิโก และ แอฟริกาใต้สังคมยังมีทัศนคตินิยม ชมชื่นผู้ชายที่ "เก่งกล้า" เรื่องบนเตียง แต่ผู้หญิงควรจะเป็นฝ่ายให้ผู้ชาย "เข้าหา" มาจีบ และหากผู้หญิงพลาดพลั้ง เผลอทำเรื่อง "ไม่งาม" ขึ้นมา ก็จะถูกสังคมตราหน้าลงโทษ ตั้งแต่ระดับเบาะๆ อย่างถูกนินทา วิพากษ์ วิจารณ์ ไปกระทั่งถึงขั้นรุนแรงอย่างถูกครอบครัว "ฆ่าตาย" เพื่อล้างอาย อย่างเช่นในกรณีที่มีบางประเทศ ซึ่งผู้หญิงที่แอบลักลอบเสียตัวให้กับผู้ชาย ก็จะถูกครอบครัวลงมือฆ่า เพื่อล้างอาย รักษาศักดิ์ศรีของครอบครัว
          "เราคิดว่า ผลการศึกษาของเรา ได้ช่วยอธิบายให้รู้ว่า ทำไมโครงการรณรงค์ ต่อต้านโรคเอดส์หลายโครงการ ถึงใช้ไม่ได้ผล โครงการที่ให้แค่ข้อมูล และแจกถุงยางอนามัย โดยไม่ได้มีการพูดถึง ปัจจัยปัญหาสำคัญทางสังคม ก็ทำได้แค่กะเทาะบางส่วนของปัญหาเท่านั้น"

วันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ปลดล็อคสมการถุงยางกับยืดอกพกถุง



 ในช่วง 2 เดือนมานี้ หลายคนคงมีโอกาสดูสปอตโฆษณา “ยืดอกพกถุง” ที่กินเวลาเพียง 15 วินาที เพราะสปอตนี้ได้เผยแพร่ในช่วงเวลาที่มีผู้ชมรายการโทรทัศน์จำนวนมาก สปอตโฆษณาชุดนี้มี 2 ชิ้น มีจุดประสงค์หลักคือต้องการสื่อสารกับผู้ชายให้รู้สึกสะดวกใจที่จะซื้อถุงยางอนามัย ชิ้นแรกฉายภาพเหตุการณ์ในร้านสะดวกซื้อ ที่มีตัวละครผู้ชายเข้าไปซื้อถุงยางอนามัย โดยมีความกล้าๆ กลัวๆ สายตาคนรอบข้าง แต่ในที่สุดก็คิดได้ว่าเป็นความรู้สึกที่ตนคิดไปเองแท้ๆ คนรอบข้างในร้านนั้นไม่ได้สนใจเขาเลย โฆษณาอีกชิ้นฉายภาพเหตุการณ์ในสถานีอนามัย โดยตัวละครเด่นเป็นผู้ชายอีกเช่นกัน ชายผู้นี้เป็นชาวบ้านวัยกลางคน ไปขอรับถุงยางอนามัยจากเจ้าหน้าที่ แต่ไม่กล้าแม้แต่จะพูดคำว่า “ถุงยางอนามัย” เพราะกลัวว่าชาวบ้านที่นั่งรอรับบริการอยู่จะมองด้วยสายตาตำหนิ เขาใช้เวลาสื่อสารด้วยภาษามืออยู่นานกว่าจะรวบรวมความกล้าและเอ่ยคำว่าถุงยางได้สำเร็จ และเมื่อหันไปดูคนรอบข้าง ก็ไม่พบสายตาตำหนิติเตียน เพียงแค่นี้ก็สื่อได้ว่าการมาขอรับถุงยางอนามัยแสนจะเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ไม่จำเป็นต้องอายใคร 

         ในสังคมไทยซึ่งเต็มไปด้วยความหลากหลายของผู้คน สปอตโฆษณาชุดนี้อาจโดนใจใครหลายคน ในขณะเดียวกันก็สร้างความกังวลใจให้กับคนบางกลุ่ม แต่ปฏิกิริยาที่ปรากฏเป็นข่าวกลับมีเพียงความรู้สึกด้านลบ เพราะประธานสมาพันธ์ประชาชนตรวจสอบรัฐไทย ซึ่งเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคประชากรไทย ออกมายื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขให้ถอดโฆษณานี้ โดยให้เหตุผลว่าเป็นการยั่วยุทางเพศ กระตุ้นให้วัยรุ่นอยากจะมีเพศสัมพันธ์เมื่อได้ดูโฆษณาชิ้นนี้ อีกทั้งเสนอแนะให้มีการปรับเปลี่ยนการโฆษณาไปในทางเสริมสร้างจิตสำนึกเชิงคุณธรรมแทน ทำเอาหลายคนมึนงงไปเหมือนกันว่าทำไมนักการเมืองจึงกระตือรือร้นออกมายึดพื้นที่สื่อเพื่อนำเสนอความกังวลใจของตนหลังจากโฆษณาแพร่ภาพไปแล้วถึง 2 เดือน

         เพื่อสะท้อนความเห็นที่รอบด้านไปสู่สาธารณะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ โดยแผนงานสร้างเสริมสุขภาวะทางเพศ จึงได้จัดงานสานเสวนา “ยืดอกพกถุงกับวัยรุ่นไทย” เพื่อเปิดพื้นที่ปลอดภัยให้กับคนกลุ่มต่างๆ ที่ต้องการแสดงความเห็นเรื่องเพศ จึงมีทั้งมุมมองจากวัยรุ่น ครูที่สอนเพศศึกษา กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงวัฒนธรรม คนทำงานประเด็นผู้หญิง คนทำงานปกป้องเด็กและเยาวชน และผู้ผลิตโฆษณาชิ้นนี้ การเสวนาเป็นไปอย่างน่าสนใจ เพราะมีหลายแง่มุมให้ได้คิดและติดตาม

         จากมุมมองของวัยรุ่น พวกเขาพูดตรงกันว่า เมื่อดูโฆษณาชิ้นนี้แล้ว ไม่ได้เกิดความรู้สึกอยากจะไปมีเพศสัมพันธ์แต่อย่างใด หรือพูดง่ายๆ ก็คือถุงยางอนามัยไม่ใช่สื่อกระตุ้นเร้าอารมณ์เพศสำหรับพวกเขา อย่างที่ผู้ใหญ่คิด หรืออาจมีความหมายแฝงว่าพวกเขาไม่ได้เกิดอารมณ์เพศง่ายดายเพียงแค่เห็นถุงยางอนามัยเท่านั้น วัยรุ่นบางคนมีความเห็นว่าวัยรุ่นพร้อมจะพกถุงยางอนามัยเพื่อเป็นเครื่องมือป้องกันตัวเองจากการติดเชื้อและการท้องไม่พร้อมอยู่แล้ว แต่ยังกลัวสายตาของผู้ใหญ่ โดยเฉพาะพ่อแม่ ผู้ปกครอง ที่รับไม่ได้หากรู้ว่าลูกหลานพกถุงยาง ในขณะที่ วัยรุ่นหลายคนมองว่าโฆษณานี้ทำให้พวกเขารู้สึกมั่นใจที่จะพกถุงยางมากขึ้น เพราะโฆษณาสื่อว่าการพกถุงยางคือการมีสำนึกรับผิดชอบในเรื่องเพศ

         อย่างไรก็ตาม ผู้ใหญ่บางกลุ่มมองว่า “ยืดอกพกถุง” เป็นโฆษณาที่แรงเกินไป ยั่วยุให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ง่ายและเร็วขึ้น ในขณะที่คนทำงานด้านเพศศึกษาในเยาวชน ก็มีแง่คิดที่น่าสนใจว่า ปัจจุบันมีโฆษณาหลายชิ้นที่แรงกว่านี้ เพราะเนื้อหามุ่งไปที่การเตรียมวัยรุ่นให้พร้อมที่จะหาคู่ เช่น โฆษณาผลิตภัณฑ์หน้าใส หน้าขาว ทั้งหลายที่เน้นสื่อสารให้วัยรุ่นหญิงดูแลเนื้อตัวร่างกายให้มีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ นอกจากนี้ ยังมีโฆษณาที่ดูถูกศักยภาพผู้หญิง เช่น ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางบางยี่ห้อที่ใช้แล้ว สามีจะกลับมาภายใน 7 วัน ซึ่งสะท้อนว่าคุณค่าของผู้หญิงอยู่ที่ความงามภายนอก ประเภทสวยใสแต่ไร้สมอง นอกจากนั้น ยังมีโฆษณาที่เปรียบผู้หญิงกับ “แรด” ที่วิ่งเข้าหาผู้ชายที่ใช้โรลออนระงับกลิ่นกายยี่ห้อหนึ่ง และผลิตภัณฑ์เสริมทรวงอก ที่เปรียบเทียบผู้หญิงกับแผ่นไม้กระดาน ทำให้ผู้หญิงหลายคนหมดความมั่นใจในตัวเอง หันไปพึ่งศัลยกรรมตกแต่งจนเป็นข่าวเสียชีวิตก็หลายครั้ง และอีกมากมายที่กล่าวไม่หมดในพื้นที่แค่นี้ แต่ประเด็นน่าสนใจที่พูดในวงสานเสวนาคือ เหตุใดจึงไม่มีการตั้งคำถามกับสปอตโฆษณาเหล่านี้

         ส่วนคุณครูที่มีประสบการณ์สอนเพศศึกษามานานสะท้อนประสบการณ์ว่าเคยรู้สึกสับสนเช่นกัน เกรงว่าจะเป็นการชี้โพรงให้กระรอก แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจลงมือสอนเพศศึกษาอย่างจริงจัง เพราะได้รับรู้และเผชิญกับความจริงที่ว่าวัยรุ่นจำนวนมากเสี่ยงต่อการเสียสุขภาพทางเพศ โดยเฉพาะปัญหาการติดเชื้อเอชไอวี และการตั้งท้องเมื่อไม่พร้อม ด้วยเหตุที่ไม่มีข้อมูลที่รอบด้าน หรือได้รับข้อมูลเมื่อสายเกินไป การที่คุณครูท่านนี้ ไม่มัวแต่กังวล แต่ลงมือปฏิบัติจริง ทำให้ได้พบความจริงชุดหนึ่งว่าวัยรุ่นมีศักยภาพที่จะคิดและเลือกทางที่เหมาะสมกับตนเองได้ หากได้รับข้อมูลที่รอบด้าน

         ในขณะที่ฟากผู้ผลิตสปอตโฆษณากลับแปลกใจที่ถูกต่อต้านว่ายั่วยุให้วัยรุ่นมีเพศสัมพันธ์ เพราะโฆษณาชุดนี้ตั้งใจสื่อสารให้เป็นกลางๆ ไม่ได้มีภาพที่สื่อไปในทางเชิญชวน และตัวละครหลักก็ไม่ใช่วัยรุ่น สิ่งที่คิดไว้ว่าอาจถูกต่อต้านและถือเป็นความท้าทายคือ การพยายามสร้างความคิดใหม่ว่า การพกถุงยางคือการทำดี ภายใต้แนวคิด “ทำดีแบบนี้ไม่ต้องอายใคร” และการนำเสนอภาพตัวละครที่แสดงความรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ทำในสิ่งดีๆ โดยการยืดอกอย่างมั่นใจ การที่ผู้ผลิตโฆษณาไม่ถูกต่อต้านในแง่นี้ อาจเป็นเพราะสังคมไทยไม่เข้าใจในสารที่พยายามจะสื่อ เพราะแต่ไหนแต่ไรมา การทำดีในสังคมไทยถูกมองด้วยสายตาที่คับแคบว่าเป็นเรื่องของการทำบุญกับพระหรือวัดเท่านั้น เพิ่งจะมาในช่วงไม่กี่ปีนี้ที่เริ่มขยายมาถึงการช่วยเหลือสังคมในด้านต่างๆ แต่ก็มักเป็นการสงเคราะห์เสียส่วนมาก สังคมไทยจึงไปไม่ถึงไหน ไม่สามารถยกระดับเป็นสังคมที่ผู้คนสามารถเป็นผู้ให้และผู้รับได้อย่างมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย เพราะในสูตรสำเร็จของการสงเคราะห์ยังจำเป็นต้องมีฝ่ายที่มีสถานภาพเหนือกว่าและฝ่ายที่มีสถานภาพด้อยกว่า

         โดยภาพรวมแล้ว ผู้ผลิตสปอตโฆษณาชุดนี้ประสบความสำเร็จอย่างน้อยใน 2 จุด คือ สามารถดึงผู้คนในสังคมให้กระโจนเข้ามามีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนทัศนะเกี่ยวกับเรื่องเพศ และยังค่อยๆ คลี่คลายถอดสมการถุงยางที่ถูกใส่สูตรเอาไว้ว่า ถุงยางอนามัยคู่กับการสำส่อนทางเพศ นอกจากนี้ ในบริบทของสามีภรรยาหรือคู่รัก ถุงยางก็ถูกจับคู่ให้กับความไม่ไว้วางใจหรือการนอกใจ สปอตยืดอกพกถุงจึงเป็นก้าวแรกของการถอดสมการถุงยางว่าแท้ที่จริงคำตอบก็คือ ถุงยางเท่ากับสำนึกรับผิดชอบในเรื่องเพศ ยิ่งกว่านั้น สปอตนี้ยังพยายามถอดสมการการทำความดีที่ถูกจับคู่กับพระหรือการสงเคราะห์ผู้ด้อยโอกาส มาเป็นการทำดีเท่ากับการเคารพสิทธิในสุขภาพทางเพศของบุคคลอีกด้วย ในจุดนี้ กระทรวงวัฒนธรรมควรจะรีบฉกฉวยโอกาสสานต่องาน หากยอมรับว่าการเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นวัฒนธรรมไทยเช่นกัน

วันพฤหัสบดีที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2556

โรนัลดินโญ่ กับบริษัทถุงยางอนามัย


มีนักฟุตบอลระดับโลกหลายคนที่มีธุรกิจเสริมมากมายซึ่งส่วนใหญ่ต่างก็หนีไม่พ้นน้ำหอมดับกลิ่นกาย เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรือชุดชั้นในชาย แต่ทว่าล่าสุด โรนัลดินโญ่ สุดยอดซุป’ตาวงการลูกหนังโลกชาวบราซิล ก็สร้างกระแสความฮือฮาด้วยการผุดไอเดียลงทุนทำธุรกิจผลิตอุปกรณ์เสริมรักทำถุงยางอนามัยออกจำหน่าย ภายใต้แบรนด์ “SEX FREE” เป็นของตนเองขึ้นที่ประเทศบราซิลเรียบร้อย โดยแพ็คเกจก็ถูกออกแบบเป็นลายเสื้อทีมเหย้าของ แอตเลติโก้ มิไนโร ทีมที่ โรนัลดินโญ่ สังกัดอยู่ในตอนนี้นั่นเอง

เดวิด เบคแฮม ยอดซุป’ตาลูกหนังชาวอังกฤษที่เพิ่งเดินทางไปเยือนประเทศจีนได้ไม่กี่วันก็มีแบรนด์ถุงยางเป็นของตัวเองซะแล้วภายใต้ชื่อ “LONG LOVE” ซะอย่างงั้น

ถุงยางอนามัยป้องกันการข่มขืน


โดยผู้คิดค้นชื่อ แพทย์หญิง ซอนเน็ต เอห์เล่อร์ จากแอฟริกาใต้ ถุงยางอนามัยป้องกันการถูกข่มขืน นี้จะมีลักษณะคือมีเขี้ยวตะขอ คล้ายหนาม เป็นแนวที่จะทำร้ายเจ้าโลกของผู้ชายได้ ซึ่งไอเดียการผลิตถุงยางป้องกันการข่มขืนนี้เกิดขึ้นเมื่อปี 2005 และตอนนี้ได้จำหน่ายให้กับผู้หญิงในแอฟริกาใต้ ในช่วงฟุตบอลโลกด้วย 
รายงานยังบอกอีกด้วยว่า แพทย์หญิงซอนเน็ต ถึงขนาดลงทุนขายบ้าน ขายรถ เพื่อหาเงินมาพัฒนา ถุงยางอนามัยป้องกันข่มขืน โดยเฉพาะ สำหรับประสิทธิภาพของมันคือ ถ้าผู้ชายคนไหนจะไปข่มขืนผู้หญิงที่ใส่ถุงยางป้องกันนี้ จะเจ็บปวดมาก ปัสสาวะก็ไม่ได้ เดินก็ไม่ไหว ทำให้ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันที
ถุงยางป้องกันการข่มขืน ที่กล่าวนี้ มีส่วนคล้ายกับภาพยนตร์เรื่อง “The teeth” ซึ่ง มีเนื้อหาเกี่ยวกับเด็กสาวที่มีอวัยวะเพศมีเขี้ยว สามารถป้องกันภัยผู้ชายลวนลามทางเพศได้ แต่จะไม่ทำร้ายสำหรับผู้ชายที่เธอรัก

วันอังคารที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ท้อง ได้ไงเมื่อใช้ ถุงยาง แล้ว



 สาเหตุของการล้มเหลวในการใช้ ถุงยางอนามัย ย่อมนํามาซึ่งความหายนะอันใหญ่หลวง ที่หลายๆ คนเคยประสพมาแล้ว..ทําไมจึงเป็นเช่นนั้น
1. การใช้ถุงยางอนามัยไม่สม่ำเสมอ นับเป็นสาเหตุสําคัญในการคุมกําเนิด ซึ่งอาจมาจากความไม่ร่วมมือของฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด หรือใช้ถุงยางอนามัยสลับกับการนับวัน หรือหลั่งภายนอก
2. การใช้ถุงยางอนามัยไม่ถูกวิธี เช่น คลี่ออกทั้งหมดก่อนสวมใส่ การใส่ผิดด้าน การใส่ที่ไม่เว้นส่วนติ่งไว้ (คือดึงมาจนสุดไม่เหลือติ่ง) ไม่ไล่อากาศออกจากติ่งกระเปาะ ถูกเล็บหรือของมีคม (กรณีให้สาวใส่ให้)
3. การนํากลับมาใช้ใหม่หลังจากที่ใช้ไปพักหนึ่งแล้วถอดออก การไม่จับขอบตอนถอนสมอ การใช้สารหล่อลื่นที่ไม่เหมาะสม หลั่งแล้วแช่นาน จนนกเขาหลับ การใช้ไม่ถูกวิธีเหล่านี้นํามาซึ่ง การแตก รั่ว เลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย หรือการการปนเปื้อนของน้ำอสุจิบริเวณช่องคลอด (หกปากถ้ำ)
4. การเลื่อนหลุดของถุงยางอนามัย แม้ได้ระมัดระวังอย่างดีแล้ว
การเลือกถุงยางอนามัย

     ก็คงต้องดูความมาตรฐานของถุงยางครับ สำหรับเรื่องมาตรฐานของถุงยางแต่ละยี่ห้อนั้น คงบอกยากครับ แต่ให้ลองสังเกตดูที่กล่องว่ามีเครื่องหมายรับรองคุณภาพมั้ย ถ้ามีก็น่าจะใช้ได้ ยิ่งยี่ห้อที่เรารู้จักก็น่าจะดีกว่าครับ ส่วนขนาดนั้น ถุงยางอนามัยจะมีหลายขนาด ไม่ใช้ Free Size แบบที่หลายคนเช้าใจนะครับ  ในเมืองไทยที่เห็นบ่อยๆจะมีขนาด 49 มม.และ 52 มม.ก็คงต้องเลือกให้พอดีกับ Size ของเราครับ  บางชนิดอาจใส่สารฆ่าเชื้ออสุจิ เข้าไปด้วย แต่ไม่ได้ช่วยป้องกันโรคเอดส์เพิ่มขึ้น แบบที่บางคนเข้าใจครับ ไว้เพิ่มคุมกำเนิดที่ดีขึ้นเท่านั้นครับ
 การใช้งาน การใส่นั้น ต้องใส่ตอนที่อวัยวะเพศแข็งตัวครับ และสวมโดยการครอบถุงยางไว้กับปลายอวัยวะเพศ บีบปลายถุงยางที่เป็นกระเปาะเพื่อไม่ให้มีอากาศเข้าไป จากนั้นก็ค่อยๆรูดถุงยางลงมาครับ จริงๆ ตรงนี้ในซองถุงยางจะมีบอกไว้แล้วครับ
 หลังการใช้  จะต้องถอดถุงยางออกทันที โดยต้องระวังไม่ให้น้ำอสุจิกระเด็น หรือเลอะช่องคลอด เอาออกขณะที่อวัยวะเพศยังแข็งตัว ไม่ควรทิ้งไว้ในช่องคลอดจนอ่อนตัว เพราะ อาจทำให้น้ำอสุจิรั่วออกมาได้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เอดส์และการใช้ถุงยางอนามัย

เอดส์เกิดจากเชื้อไวรัสเอชไอวีหรือไวรัสเอดส์ที่ติดต่อหลักทางเพศสัมพันธ์และไม่สามารถรักษาให้หายได้ ผู้ป่วยที่ติดเชื้อนี้ในระยะแรกจะไม่มีอาการผิดปกติ ดังนั้น จึงไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ใดติดเชื้อเอดส์จากรูปร่างภายนอก คนที่ดูปกติก็อาจมีเชื้อเอดส์อยู่ในร่างกายได้ จึงจำเป็นต้องอาศัยการตรวจเลือด จึงจะทราบผลได้แน่นอน รายงานทั่วโลกพบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อเอดส์มากกว่า 30 ล้านคน ในประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อเอดส์แล้วมากกว่า 3 แสนคน และมีผู้เสียชีวิตไปแล้วเกือบ 1 แสนคน ในแต่ละวันมีผู้ติดเชื้อเอดส์เพิ่มวันละประมาณ 15-20 คน ดังนั้น การมีเพศสัมพันธ์กับบุคคลที่ไม่ทราบผลการตรวจเลือดจึงมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ได้ การป้องกันที่ดีที่สุด คือ การไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ไม่ทราบผลตรวจเลือด เนื่องจากดังที่กล่าวแล้ว ไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ใดติดเชื้อเอดส์ได้บ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร เช่น การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน หากผิดพลาดเป็นเอดส์แล้ว จะไม่มีวันรักษาให้หายได้ จำเป็นต้องกินยากดเชื้อไวรัสนี้ไปตลอดชีวิต หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ได้ ควรใช้ถุงยางอนามัย เนื่องจากถุงยางอนามัยสามารถป้องกันการติดเชื้อเอดส์ได้ แต่ต้องใช้อย่างถูกวิธี ข้อสำคัญ คือ ไม่ควรดื่มสุราหรือของมีนเมาหรือใช้ยาเสพติด เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้ผู้ใช้มีสติสัมปชัญญะลดลง ทำให้มีโอกาสที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้โดยเฉพาะเพศสัมพันธ์ที่ไม่ใช้ถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยปกติจะไม่แตกระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ ยกเว้น ไม่บีบปลายถุงยางอนามัยเพื่อไล่อากาศออกก่อนสวม, ถุงยางอนามัยหมดอายุ, เก็บถุงยางอนามัยไม่ถูกวิธี เช่น โดนความร้อน (ตากแดด หรือเก็บไว้ในรถ) เกิดรอยพับ (เก็บไว้ในกระเป๋าสตางค์), การใช้สารหล่อลื่นประเภทน้ำมัน เช่น โลชั่น แวกส์ วาสลีน สารเหล่านนี้ทำให้ยางอ่อนนุ่มฉีกขาดง่าย, การใช้ปากฉีกซองถุงยาง เพราะฟันอาจพลาดไปกัดถูกถุงยางฉีกขาดได้ และการใช้ถุงยางอนามัยขนาดไม่เหมาะสมกับขนาดอวัยวะเพศของตน
คาถาป้องกันเอดส์ “3 ไม่” คือ
1. ไม่ สำส่อน มีเพศสัมพันธ์เมื่อพร้อม
2. ไม่ หลายใจ มีเพศสัมพันธ์กับสามีหรือภรรยาตนเท่านั้น
3. ไม่ ประมาท ที่จะใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์
ถ้าทำไม่ได้ ----> “ไม่รอด”

วันพฤหัสบดีที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2556

แปลกแต่จริง! ถุงยางลอยในสระว่ายน้ำกกท.

 บางคนคิดว่าเรื่องนี้อาจโม้ ถ้าใครเป็นแฟนพันธุ์แท้กีฬาไทยตัวเป็น ๆ อาจคุ้น ๆ กับข่าวชิ้นหนึ่ง ปรากฏเมื่อ 5-6 ปีก่อน
กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสถานที่ที่เรียกว่า สระว่ายน้ำ ในการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ตรงกับช่วงที่นักกีฬา กำลังเตรียมตัวอย่างขะมักเขม้นลุยกีฬาซีเกมส์
ธรรมชาติของนักว่ายน้ำ จะกระจายซ้อมตามสระต่าง ๆ ตามความสะดวกของนักกีฬาและโค้ช
 แต่จะมีการซ้อมรวมกันเป็นประจำทุกเช้าวันอาทิตย์ เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ใหญ่ในสมาคมฯ ได้เดินทางมาดู และซักถาม แต่ช่วงเวลาดังกล่าว กลับมีเรื่องพิลึก ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้
            ช่วงที่นักว่ายน้ำ กำลังซ้อมเพลิน ๆ จู่ ๆ ฉลามหนุ่มนายหนึ่งพักเหนื่อยบริเวณบล็อกสตาร์ท เห็นอะไรแว็บ ๆ ลอยอยู่บนผิวน้ำ ด้วยความสงสัย เอื้อมมือไปหยิบขึ้นจากน้ำ ถึงกับผงะ!
            ปรากฏว่า เป็นถุงยางสีชมพู หวานแหวว พอรู้ว่าเป็นอุปกรณ์ป้องกันอาการเบนโลของหญิงสาว ถึงกับตีหน้าเบี้ยว นึกรังเกียจขึ้นมาฉับพลัน
            แต่เมื่อหยิบมันขึ้นมาจากน้ำ นึกจะเขวี้ยงมันทิ้ง ก็กลัวพลาดจะไปแปะโดนศีรษะเพื่อนนักว่ายน้ำ
            หลังจากคนทั้งสระรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จึงแห่กันมาดูของแปลกที่ถูกทิ้งในสถานที่ที่ไม่น่าจะเป็นที่อยู่ของมัน
            ต่างคนต่างวิจารณ์ ถึงที่มาที่ไป และไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่า ผ่านการกรำศึกมาหรือยัง
            แต่ก็ทำให้กกท. ในฐานะเจ้าของสถานที่ หน้าแหก จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องบัดสี
            ทำเอาภาพพจน์สนามกีฬาของชาติ แปดเปื้อนมลทิน โดยไม่รู้ว่าเกิดจากการกลั่นแกล้ง หรือมีการเล่นเสียวกันจริง ๆ จนลืมเก็บอุปกรณ์ไปทิ้ง


สาระน่ารู้ : ถุงยางอนามัย


สาระน่ารู้ : ถุงยางอนามัย 
           จากการที่ผู้ป่วยโรคเอดส์ร้อยละ 84 ได้รับเชื้อเอดส์มาจากการมีเพศสัมพันธ์ มาตรการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อเอดส์ จึงเน้นที่การรณรงค์ให้ประชาชนมีพฤติกรรมที่เหมาะสม รักเดียว-ใจเดียว มีคู่เพศสัมพันธ์เพียงคนเดียว แต่ก็ยังคงมีการแพร่ระบาดทางเพศสัมพันธ์ในระดับสูง มาตรการส่งเสริมการใช้ถุงยางอนามัยจึงเป็นมาตรการสำคัญที่ใช้ในการแก้ไขปัญหาทางเพศสัมพันธ์จากการเฝ้าระวัง 
           ทั้งนี้ พฤติกรรมเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอดส์ทางเพศสัมพันธ์ในกลุ่มประชากรที่มีอายุ 15 - 29 ปี พบว่าอัตราการใช้ ถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์นอกสมรสน้อยกว่าร้อยละ 30 ทั้งนี้เพราะประชาชนส่วนใหญ่ยังคงมีเจตคติต่อถุงยางอนามัยในเชิงลบ เช่น คิดว่าถุงยางอนามัยให้ความรู้สึกที่ไม่เป็นธรรมชาติ ไม่มั่นใจในคุณภาพของถุงยางอนามัยกลัวคู่นอนคิดว่าตัวเองติดเชื้อและไม่แน่ใจว่าถุงยางอนามัยจะป้อง กันโรคได้  

           แม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะมีความรู้เรื่องโรคเอดส์ และวิธีการป้องกันการติดเชื้อเอดส์เป็นอย่างดี แต่ก็ยังไม่นิยมใช้ถุงยางอนามัย จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสร้างความตระหนักถึงประโยชน์ของถุงยางอนามัย เพื่อให้ยอมรับการใช้ถุงยางอนามัยมากยิ่งขึ้น และเพื่อลดอัตราการติดเชื้อเอดส์ให้น้อยลง โดยการเน้นความน่าเชื่อถือในคุณภาพและแสดงถึงความรอบคอบ และปรับเปลี่ยนค่านิยมที่ตีตราว่าถุงยางอนามัยเป็นสัญลักษณ์ของความสำส่อนทางเพศ ให้สื่อแสดงว่าถุงยางเป็นเครื่องใช้ที่บ่งบอกถึงความรอบคอบระมัดระวัง 
           รวมทั้งต้องส่งเสริมสนับสนุนและควบคุมตรวจสอบการผลิตถุงยางอนามัยให้มีมาตรฐานคุณภาพดีสร้างความมั่นใจต่อประชาชนผู้บริโภคว่ามีความปลอดภัยในการป้องกันการติดเชื้อโรคทางเพศสัมพันธ์และเชื้อเอดส์ได้ถุงยางอนามัยหรือ Condom เป็นผลิตภัณฑ์จากน้ำยางธรรมชาติ น้ำยางสังเคราะห์หรือวัตถุอื่นๆ ใช้สวมอวัยวะเพศชายในขณะร่วมเพศ เพื่อป้องกันการหลั่งน้ำอสุจิเข้าสู่ช่องคลอด เป็นการป้องกันการตั้งครรภ์ การติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และโรคเอดส์ ถุงยางอนามัยมีชื่อเรียกหลายอย่าง เช่น ถุง ปลอก เสื้อฝน เสื้อเกราะ มีชัย สุลต่าน ในภาษาอังกฤษเรียกว่า condom,skin,sheath,prophylactics เป็นต้น  

ขบวนการผลิตถุงยางอนามัยประกอบด้วย 6 ขั้นตอนคือ 

           1. การผสม  
           2. การขึ้นรูปถุงยางอนามัย  
           3. การอบแห้งและทำให้ยางคงรูป  
           4. การตรวจสอบหารอยรั่วด้วย ไฟฟ้า  
           5. การเติมสารหล่อลื่นและการบรรจุถุงยางอนามัย  
           6. การควบคุมคุณภาพถุงยางอนามัย  

           ซึ่งผู้ผลิตจะทำการควบคุมคุณภาพ ตั้งแต่การควบคุมคุณภาพวัตถุดิบ การควบคุมคุณภาพระหว่างการผลิต และการตรวจสอบคุณภาพผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปตามมาตรฐานที่กำหนด นอกจากนี้ภาครัฐยังได้ส่งเสริมมาตรการสร้างความมั่นใจให้กับผู้บริโภค ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2535 โดยการริเริ่มโครงการตรวจสอบคุณภาพถุงยางอนามัยก่อนออกจำหน่าย โดยกำหนดให้ถุงยางอนามัยทุกรุ่นการผลิต หรือนำเข้าจะต้องส่งตัวอย่างให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจวิเคราะห์คุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดหากพบว่าได้มาตรฐานจึงจะอนุญาตให้จำหน่ายได้ในกรณีที่คุณภาพไม่เข้ามาตรฐานจะต้องทำลายหรือส่งกลับประเทศผู้ผลิตทันทีมาตรการดังกล่าวจึงเป็นเสมือนการกลั่นกรองคุณภาพถุงยางอนามัยก่อนถึงมือผู้บริโภคตลอดจนเป็นการกระตุ้นให้ผู้ผลิตและผู้นำเข้าตระหนักถึงความรับผิดชอบต่อสังคมในการที่จะผลิตหรือนำเข้าเฉพาะถุงยางอนามัยที่มีคุณภาพ และประสิทธิภาพเป็นที่น่าเชื่อถือแก่ผู้ใช้ 

           อย่างไรก็ตาม แม้ว่าถุงยางอนามัยที่วางจำหน่ายในท้องตลาดจะผ่านขั้นตอนการผลิต และการควบคุมคุณภาพเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของผู้ผลิตและภาครัฐแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สามารถเป็นหลักประกันได้ว่าถุงยางอนามัยทุกชิ้นที่วางจำหน่ายในท้องตลาดมีคุณภาพและประสิทธิภาพที่ดีเนื่องจากถุงยางอนามัยเป็นผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากน้ำยางธรรมชาติ ซึ่งมีคุณสมบัติที่จะเสื่อมสลายได้ตามระยะเวลา และสภาพการเก็บรักษา อาจมีส่วนทำให้ถุงยางอนามัยเสื่อมคุณภาพก่อนเวลาอันควรหรือก่อนวันสิ้นอายุที่ระบุไว้บนฉลาก 

           เมื่อนำถุงยางอนามัยไปใช้งานจะสามารถใช้คุมกำเนิดหรือป้องกันโรคได้แน่นอนหรือไม่ มิได้ขึ้นกับคุณภาพของถุงยางอนามัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับวิธีการใช้ว่าใช้ถูกต้องหรือไม่ หมดอายุการใช้งานหรือยัง หรืออาจแตกขณะใช้ สาเหตุเนื่องจากบางครั้งผู้ใช้อาจละเลย หรือมิได้คำนึงถึงเรื่องที่มีความสำคัญอย่างมาก ซึ่งได้แก่ การเลือกซื้อ การเก็บรักษาและวิธีการใช้หากผู้ใช้ให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าวและมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ถุงยางอนามัยสำหรับคุมกำเนิดและป้องกันโรค ตลอดจนสามารถทำให้ผู้ใช้เกิดความพึงพอใจ และมีทัศนคติที่ดีต่อถุงยางอนามัย 

ชนิดของถุงยางอนามัย 
           ถุงยางอนามัยแบ่งชนิดตามลักษณะผิว เป็น 2 ชนิด คือ ชนิดผิวเรียบ และชนิดผิวไม่เรียบ 
การเลือกซื้อควรสังเกตดู ว่าเป็นชนิดที่ตรงกับความต้องการของตนเองหรือไม่ นอกจากนี้ ผู้ซื้อควรสังเกตข้อความอื่นๆ ว่าครบถ้วน และตรงกับความต้องการหรือไม่ เช่น ชื่อผู้ผลิต หรือผู้นำเข้า รุ่นที่ผลิต เดือนปีที่ผลิต มีสารหล่อลื่น หรือสารฆ่าเชื้ออสุจิ มีสารแต่งกลิ่นหรือไม่ ฯลฯ 

ประเภทของถุงยางอนามัย  
           ถุงยางอนามัยแบ่งประเภทตามขนาดความกว้าง ( ครึ่งหนึ่งของเส้นรอบวงของถุงยางนามัย ) เป็น 13 ขนาด คือ 44 , 45 , 46 , 47 , 48 , 49 ,50 , 51 ,52 , 53 , 54 , 55 และ 56 มิลลิเมตร (มม.) ขนาดที่มีจำหน่ายในเมืองไทยส่วนใหญ่จะเป็นขนาด 49 มม. มม. และ 52 มม. 

           จากการสำรวจพบว่าปกติชายไทยจะใช้ถุงยางอนามัยขนาด 49 มม. หากเป็นชายไทยรุ่นใหม่ ขนาด 52 มม. จะเหมาะสมกว่า การเลือกซื้อคงจะต้องซื้อในขนาดที่เคยใช้สวมใส่มาแล้ว หากมีขนาดใหญ่เกินไปจะหลวมและหลุดง่าย หากเล็กไปจะฉีกขาดได้ง่าย ซึ่งจะก่อให้เกิดความรู้สึกไม่อยากใช้และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อถุงยางอนามัย  

วันพุธที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2556

สงครามจิตวิทยาระหว่าง อเมริกากับรัสเซีย



มีอยู่ครั้งนึงทางรัสเซียต้องการให้วัยรุ่นอเมริกันเกิดขยาดวัยรุ่นรัสเซีย จึงได้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญสงครามจิตวิทยา

นักจิตวิทยารัสเซีย : เราสั่งซื้อ “ถุงยางอนามัย” ไปที่อเมริกาเลย
ประธานาธิบดีรัสเซีย : เอ้าแล้วมันมีผลยังไงล่ะ?
นักจิตวิทยารัสเซีย : มีสิ เราระบุในใบสั่งซื้อไปเลยว่า รัสเซียต้องการสั่งซื้อ “ถุงยางอนามัย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ความยาว 1 ฟุต จำนวน  2 ล้านอัน” ให้อเมริกาผลิตให้ด้วย!

จากนั้นทางรัสเซียก็สั่งออร์เดอร์ไปยังทำเนียบขาว

ทำเนียบขาว : “ตายห่า! ถ้าวัยรุ่นอเมริกันรู้ประสาทเสียนะเนี่ยะ โอ้โห…เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว ยาว 1 ฟุต แน่ะ”
ฝ่ายอเมริกาปิดเป็นความลับ ประชุมเครียดอยู่ครึ่งวัน
นักจิตวิทยาอเมริกัน : “ยังมีทางออก รับออร์เดอร์ทำให้มันไปเลย ตามที่มันต้องการ! แต่เวลาพิมพ์หน้ากล่องต้องพิมพ์ให้มันตกใจไปเลย”
ประธานาธิบดีอเมริกัน : พิมพ์ว่ายังไง?
นักจิตวิทยาอเมริกัน : “Condom made in USA – Medium size!” (ขนาดกลางจ๊ะ)

วิธีการเลือกใช้ถุงยางแบบง่ายๆ


สำหรับคุณหนุ่ม ๆ ทุกคนแล้ว เมื่อคุณเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมา สิ่งหนึ่งที่ห้ามละเลยและควรใส่ใจให้มาก ๆ ก็คือเรื่องของการใช้ถุงยางอนามัย เพราะการใช้ถุงยางอนามัย นอกจากจะเป็นการป้องกันโรคที่ติดต่อทางเพศสัมพันธ์และป้องกันการตั้งครรภ์ของฝ่ายสาวแล้ว ยังเป็นการเพิ่มสีสันให้กับเกมรักของคุณได้อย่างดีอีกด้วย

          แต่จะยังไงก็แล้วแต่ ไม่ใช่ว่าเดินไปร้านสะดวกซื้อและจะเลือกถุงยางอนามัยมาใช้กันได้ง่าย ๆ เพราะถุงยางอนามัยนั้นมีมากมายหลากหลาย แถมยังมีความเหมาะสมกับคุณผู้ชายแต่ละคนที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย ฉะนั้น จึงจำเป็นไม่น้อยที่เรา ๆ ท่าน ๆ ควรรู้ไว้ถึงการเลือกใช้ถุงยางอนามัยอย่างเหมาะสม เพื่อประโยชน์ต่อการใช้งานและเพื่อความสุขที่คุณได้ใช้ถุงยางอย่างเต็มที่ โดยหลักการเลือกใช้ถุงยางอนามัยที่เรานำมาฝากคุณผู้อ่านทุกท่านนั้น มีดังต่อไปนี้..


เลือกขนาดให้เหมาะกับน้องชาย

          สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อคิดจะใช้ถุงยางอนามัย คุณควรจะนึกถึง "ขนาด" ของน้องชายคุณเป็นสำคัญ เพราะอย่าลืมว่าน้องชายของแต่ละคนนั้นเติบโตไม่เท่ากัน บางคนอาจจะผอมหน่อย บางคนอาจจะอ้วนมากหน่อยก็แล้วแต่เฉพาะบุคคลกันไป นี่เองจึงเป็นเหตุให้มีการผลิตถุงยางไว้มากมายหลายไซส์ ทั้งนี้ทั้งนั้น การที่เลือกขนาดที่เหมาะสม จะเป็นส่วนที่ช่วยให้การใช้งานถุงยางมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะไม่อย่างนั้นแล้ว คุณอาจจะเป็นกังวล คอยพะวงอยู่กับถุงยางจนหมดสนุก หรือบางคนอาจจะมีผลข้างเคียงกับน้องชายไปเลยก็ได้



ลองรสชาติและแบบใหม่ ๆ ของถุงยาง

          นอกจากถุงยางแบบผิวเรียบธรรมดา ๆ ที่หลาย ๆ คนรู้จักกันแล้วนั้น เดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่น่าสนใจและช่วยเพิ่มความสุขให้กับคุณและคู่รักได้อย่างไม่มียั้ง ไม่ว่าจะเป็นถุงยางแบบบางพิเศษ, ถุงยางแบบผิวไม่เรียบเพื่อเพิ่มสัมผัสพิเศษ, ถุงยางแบบปุ่ม, ถุงยางที่ผสมสารชะลอการหลั่ง และแบบอื่น ๆ อีกมากมาย นอกจากนั้นแล้วยังมีถุงยางแบบมีกลิ่นอีกเพียบเลยด้วย เช่น ถุงยางกลิ่นช็อกโกแล็ต, ถุงยางกลิ่นสตรอเบอร์รี่ หรือ ถุงยางกลิ่นเป๊ปเปอร์มิ้น เป็นต้น

หลีกเลี่ยงถุงยางที่ทำให้เกิดความระคายเคือง

          อย่างที่บอกไปในข้างต้นว่า เดี๋ยวนี้มีถุงยางเยอะแยะมากมายหลากหลายแบบให้ได้ใช้งานกัน แต่ก็ใช่ว่าทุกแบบนั้นจะเหมาะและทำให้น้องชายคุณมีความสุขได้เสมอไป ผิวหนังของคนเราบางทีก็บอบบางและแพ้ต่อสารเคมีหรือบางอย่างที่มีผสมอยู่ในถุงยาง ดังนั้น หากเริ่มรู้ตัวว่าถุงยางที่ใส่ทำตัวไม่เป็นมิตรกับน้องชายก็ให้รีบถอดออกซะ แล้วไปล้างน้ำสะอาดโดยไว ไม่อย่างนั้นแล้ว อาจจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่ต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลกันให้จ้าละหวั่นก็เป็นได้


นึกไม่ออก เลือกไม่ถูก เน้นแบบออริจินอลเข้าไว้

          ถ้าถุงยางที่อยู่ตรงหน้าคุณมีให้เลือกเยอะแยะมากมายเหลือเกิน แถมยังไม่รู้ด้วยว่าน้องชายคุณจะแพ้หรือระคายเคืองกับถุงยางแบบไหนหรือไม่นั้น ก็ขอให้คุณไม่ต้องไปคิดอะไรมาก นอกเสียจากเลือกถุงยางแบบผิวเรียบธรรมดา ๆ  นอกจากนั้น ก็ขอให้เป็นหน้าที่ของคุณในการบัญชาเกมรักไปตามจังหวะที่เหมาะสมต่อไปเป็นพอ

          แม้นี้จะเป็นเพียงเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยที่หลาย ๆ คนอาจจะพอรู้กันมาบ้างแล้ว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอีกหลายคนเลยทีเดียวที่ยังคงมีปัญหากับเลือกใช้ถุงยางอนามัยกันอยู่ เพราะฉะนั้น เราก็หวังว่าบทความนี้ คงจะเป็นประโยชน์ต่อคุณผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อยนะครับ ที่สำคัญ เมื่อคิดจะมีเซ็กส์แล้วอย่าลืม "ยืดอก พกถุง" กันด้วยนะครับคุณหนุ่ม ๆ 


วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรื่องน่ากลุ้มของหนุ่มๆ กับถุงยาง


เรื่องน่ากลุ้มของหนุ่มๆ กับถุงยาง
ย้อนกลับไปมองคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา จะเห็น "ความดก" ของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งนักพัฒนาสังคมทั้งหลายเขาระบุว่า บุตรหลานจำนวนไม่จำกัดที่ว่านั้น บ่อนทำลายสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ตลอดจนเป็นอุปสรรคต่อการยกระดับคุณภาพชีวิต จึงจำเป็นต้องมีการ "วางแผนครอบครัว" และนั่นเอง...กระบวนการ "คุมกำเนิด" จึงเข้ามาเกี่ยวข้องหลังจากนั้น 

การคุมกำเนิดหรือพูดง่ายๆ ว่าการป้องกันการตั้งครรภ์นั้น คนจำนวนหนึ่ง แม้จะ "หลั่งภายนอก" ก็ยังไม่ (ยอม) ทำ นับวัน "7 วันในระยะปลอดภัย" ก็ไม่เป็น ไอ้ครั้นจะให้ใช้ถุงยางอนามัย-ยิ่งเป็นเรื่องยาก ยึกยักโยกโย้อยู่นั่นเอง 

รู้ไหมว่า...ถุงยางอนามัยเกิดขึ้นภายหลังมีสตรีเจ็บป่วยด้วยเหตุว่ายาคุมกำเนิดนั้น ส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และการคุมกำเนิดวิธีอื่นก็ยุ่งยากแถมได้ผลไม่เต็ม 100% ในเวลาเดียวกัน ถุงยางก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความเชื่อผิดๆ ความไม่เข้าใจ และวิธีใช้-ไม่ใช้ ซึ่งพิสดารไปสารพัด ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกบ้างไม่ถูกบ้างเกี่ยวกับ "ถุงยางอนามัย" และทำให้หนุ่มๆ หลายรายกลายเป็นมนุษย์จำพวก "น่าปวดหัว" (ชะมัดยาด!) 

>> ถุงยางอนามัยย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นชายของผม! 
อีตาบ้าเอ๊ย... มันอยู่ตรงไหนกันเล่า ไอ้ศักดิ์ศรีความเป็นชายที่ถุงยางอนามัยไม่มีสิทธิไปครอบหรือควบคุมมันน่ะ ถุงยางอนามัยจะครอบลงไปก็ต่อเมื่ออวัยวะเพศชายแข็งตัว ตราบเท่าที่มันยังแข็งตัว ก็แสดงว่าศักดิ์ศรีความเป็นชายยังใช้การได้เต็มที่ ยิ่งปัจจุบันพัฒนาถุงยางอนามัยนั้น ได้รับการคุณภาพเนื้อยางมาเป็นอย่างดี บางเฉียบ จนไม่มีส่วนลดทอนความรู้สึกหรือสัมผัสใดๆ ที่องคชาตจะได้รับ คุณยังคงสอดใส่ได้ ให้อีกฝ่ายทำออรัลก็ยังซาบซ่าน จะโยกยักปักป่ายท่าไหนก็กระสันเสียวได้เหมือนเดิม เว้นแต่ยามหลั่ง น้ำรักของคุณถูกขังอยู่ในถุงก็เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเชื้อทะยานเข้าไปผสมกับไข่ ปฏิสนธิ แล้วเกิดการตั้งครรภ์เท่านั้นเอง ถ้าศักดิ์ศรีความเป็นชายหมายถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบและดูแลฝ่ายหญิงได้อย่างดี มีสุข รวมไปถึงลูกๆ ทุกคนที่จะเกิดมา อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาใช้ถุงยางอนามัย เนื้อแนบเนื้อ ใจแนบใจ ปล่อยให้สายธารรักพุ่งทะยานเข้าสู่ภายในได้สุดๆ ได้ตามใจชอบ 

>> ผมคิดว่าการใช้ถุงยางอนามัยไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าจะใช้วิธีนับวันหรือระยะปลอดภัย จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% หรือเปล่า 
ไม่ได้! ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ยิ่งอันตรายรู้หรือเปล่า-เพราะประจำเดือนของพวกเธอมักมาไม่ค่อยปกติ คลาดเคลื่อนเลื่อนกำหนดอยู่เป็นประจำ เป็นเหตุให้นับวันก็ผิดพลาดได้เสมอ แล้วอันที่จริง การคุมกำเนิดด้วยการเลี่ยงวันอันตรายมันได้ผลสัก 40-50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง นับผิดนับพลาดเมื่อไหร่ได้ลูก คนทันที อย่างนี้จะเสี่ยงหรือเปล่าล่ะ ความจริงแล้ว...ไอ้การรู้สึกไม่เป็นธรรมชาตินั้น เพราะไปยึดติดกับถุงยางที่สวมอยู่ ลืมๆ มันไปบ้างไม่ได้หรือไง หันไปสำรวจสัมผัสทางความรู้สึกให้ชัวร์ ก็จะพบว่ามันเหมือนเดิม (น่ะแหละ) อีกอย่างต้องไม่ลืมว่า ถุงยางอนามัยไม่ได้ทำหน้าที่แค่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้นนะ ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกหลายชนิดด้วย ตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย! >> จริงไหมที่ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวีได้ เพราะเชื้อมีขนาดเล็กมาก 
ไม่จริง... เพราะผลจากการศึกษาในห้องทดลองยืนยันว่า เชื้อเอชไอวีไม่สามารถลอดผ่านเนื้อเยื่อของถุงยางอนามัยได้ เว้นแต่จะใช้ถุงยางเสื่อมสภาพหรือเกิดการฉีก แตก ระหว่างร่วมรัก ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก จะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการร่วมเพศกันอย่างรุนแรง หรือเปลี่ยนท่วงท่ามากและใช้เวลาในการร่วมรักนานเกินปกติ ถุงยางอนามัยที่ได้รับมาตรฐาน ISO 4074 พบสถิติการมีรูรั่วเพียง 0.4% ปัจจุบันถุงยางส่วนใหญ่พบรูรั่วเพียง 0.2% เท่านั้น และในการประชุมโรคเอดส์โลกครั้งหลังสุดเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศไทยของเราเอง ถุงยางอนามัยก็ยังได้รับการยืนยันว่า ยังเป็นเครื่องมือในการป้อนกันการติดเชื้อเอดส์จากเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกวันนี้ >> ทำไมถุงยางอนามัยต้องมีหลายสีหลายกลิ่นด้วย 
อ้าว! ไม่ชอบหรือไง สีและกลิ่นเหล่านั้นเป็นการเติมลงไปเพื่อเพิ่มระดับความพึงพอใจของผู้ใช้ไงเล่า ทำให้เกิดความคุ้นเคยและไม่รังเกียจถุงยางอนามัย โดยเฉพาะในกรณีที่มีการทำออรัลเซ็กซ์ด้วยการดูดอมองคชาต กลิ่นที่ปรุงแต่งเข้าไปจะช่วยให้เกิดความพึงพอใจ สนุก และลืมอาการรังเกียจถุงยางหรือไม่กล้าดูดอมองคชาตได้ กลิ่นและสีดังกล่าวผลิตจากสารที่ปลอดภัย ไม่มีอันตราย แม้จะมีการดูดกลืนเข้าไปในร่างกาย รวมทั้งไม่ก่อการระคายเคืองให้แก่ผู้สวมใส่และผู้ถูกสอดใส่ด้วย อย่างไรก็ตาม หากไม่ชอบกลิ่นสีที่ปรุงแต่งเหล่านี้ ถุงยางอนามัยชนิดไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ (นี่หว่า) >> ใช้ถุงยางอนามัยแล้วคัน เกิดจากมันใช่มั้ยเนี่ย 
ใช่แล้ว บางคนอาจแพ้ยางธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงยางได้ บางคนแพ้สารหล่อลื่นที่เคลือบอยู่ด้านนอก แต่กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นไม่มาก หากเกิดขึ้นให้ลองเปลี่ยนชนิดหรือยี่ห้อดู หากยังแพ้อยู่ให้เปลี่ยนไปใช้ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากโพลียูรีเทนแทน


>> สวมถุงยางอนามัยหลายชั้นช่วยให้อึด-ทน-นาน...จริงหรือ 
ไม่จริง...เป็นความเชื่อมากกว่า แต่ก็นั่นแหละนะ ถ้าใส่หลายๆ ชั้นแล้วมั่นใจก็ทำไปเถอะ ความมั่นใจจะช่วยให้อาการตื่นเต้นลดลง หรือความวิตกกังวลลดลง นั่นทำให้การร่วมรักราบรื่นขึ้น แต่อย่าให้เกินสามชั้นเลยนะ อึดอัดและสิ้นเปลืองเปล่าๆ บางคนสวมสองสามชั้นเพื่อความมั่นใจว่าถุงยางอนามัยจะไม่รั่ว ไม่แตก เช่นนั้นก็รอบคอบดี >> บางคนบอกว่า สวมถุงยางอนามัยกลับด้านจะให้ความรู้สึกดีกว่า 
นึกไม่ออกว่าจะดีกว่าอย่างไร เพราะถุงยางอนามัยถูกออกแบบโดยให้ด้านนอกมีสารหล่อลื่นเคลือบอยู่ เพื่อให้การร่วมรักไม่ฝืดฝืน ด้วยว่าหญิงสาวจำนวนหนึ่ง มีน้ำหล่อเลี้ยงในช่องคลอดน้อยเวลาร่วมรัก บ่อยครั้งทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าสุขสม ดังนั้น หากสวมถุงยางกลับด้านแล้ว มันไปลื่นอยู่กับลึงค์ของคุณ มันจะรู้สึกดีกว่าได้ยังไงกัน...จอร์จ แถมมันยังอาจทำให้การร่วมรักลำบากขึ้นได้ อีกอย่างสารหล่อลื่นที่เคลือบอยู่นั้น บางครั้งมีสารที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้ออสุจิที่อาจเล็ดลอดออกมาด้วย เพราะฉะนั้นสวมมันตามปกติเถอะ




>> ขอทราบ "วิธีใช้ถุงยางอนามัยให้ปลอดภัยและสุขสม" 
การใช้ถุงยางไม่ใช่เรื่องยาก ไม่มีขั้นตอนวุ่นวายอะไร และถุงยางมีความเหนียวพอ ไม่แตกง่ายในการสวมใส่อย่างปกติ ย้ำ-อย่างปกติ! การสวมใส่ทำได้ง่ายๆ เพียงฉีกซองตามตำแหน่งที่ระบุ ดึงถุงยางออกมา มือซ้ายบีบกระเปาะปลายถุง มือขวารูดตัวถุงยางลงสวมอวัยวะเพศที่แข็งตัวอยู่ รูดลงไปให้สุด ถุงยางมีขนาดให้เลือก โปรดเลือกตามความเหมาะสม หนุ่มๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อนควรซื้อมาทดลองสวมดูตามลำพัง ก่อนจะไปเก้ๆ กังๆ ให้เสียจังหวะขณะร่วมรัก เมื่อร่วมรักและบรรลุจุดสุดยอดแล้ว ให้ถอนลำรักออกจากอวัยวะเพศหญิงในระหว่างที่ยังแข็งตัวอยู่ 

อย่างไรก็ตาม ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ สาวๆ หลายคนอาจพอมีวิธีรับมือกับหนุ่มๆ ที่ชอบทำเรื่องน่ากลุ้มเช่นนี้อยู่บ้างแล้ว ความจริงที่ผู้หญิงควรทราบก็คือว่า อย่าไปใจอ่อนให้ผู้ชายช่างอ้อน แต่ไม่ส่อแววของความรับผิดชอบเป็นอันขาด เพราะผิดพลาดขึ้นมาประการใด กุมารน้อยนั้นเป็นตัวเป็นตนและเติบใหญ่อยู่ในครรภ์ของผู้หญิงนะ (บอกไว้กันลืม-แหะๆ) 

ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือว่า ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งอาจโดยสารมากับหนุ่มๆ ที่รักของคุณด้วย!!

วันจันทร์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ข้อความโฆษณาถุงยาง ตลกๆ (ล้อเลียน)


เพื่อนๆ ชอบถุงยางตัวไหนเอ่ย
ถุงยางมิสทีน ถุงยางมาแล้วค่ะ
ถุงยางคลอเกต ถุงยางที่ทันตแพทย์ส่วนใหญ่แนะนำ ถุงยาง ไม่ผุอยู่แล้ว
ถุงยางเบียร์ลีโอ ถูกคอถูกใจ
ถุงยางเบียร์ช้าง ใช้แล้วภาคภูมิใจ ถุงยางไทยทำเอง
ถุงยางเบียร์ไทย รสดี ดีกรีหนัก
ถุงยางเพ็ดดีกรี เหมาะสำหรับสุนัข
ถุงยางcarson ทนดีไม่มีย้วย
ถุงยางปตท. ถุงยางพลังไทยเพื่อไทย
ถุงยางโดฟ มีมอยเจอร์ไรเซอร์1ใน4ของถุง
ถุงยางchicklet มันส์จนหยุดไม่ได้
ถุงยางโอวัลติน น้องพลับขอสอง ทุกเช้าและก่อนนอน
ถุงยางคลินิกเคลียร์ จุดจบของถุงยาง
ถุงยางolay ให้คุณรักถุงยางยิ่งกว่าที่เคยเป็น
ถุงยางเลย์ ชิ้นเดียวไม่เคยพอ
ถุงยางคลอสเตอร์ ความสุขที่คุณดูดได้
ถุงยางลอรีอัล ถุงยางที่คุณคู่ควร
ถุงยางเอนเนอร์ใจเซอร์ ให้พลังยาวนานกว่าถุงยางปกติเจ็ดเท่า
ถุงยางดีแทค ถุงยางง่ายสำหรับคุณ
ถุงยาง1 2 call อิสระเท่าที่ใจอยาก
ถุงยางลิโพ ห้ามใช้เกินวันละสองกล่อง และควรอ่านคำเตือนบนฉลากก่อนใช้
ถุงยางพอนด์ ใช้แล้วแฟนจะหลงมากกกกกกกก
ถุงยางโค้ก สำหรับทุกคน
ถุงยางคาราบาวแดง ถุงยางเชิดชูนักสู้ที่ยิ่งใหญ่
ถุงยางwall อมแล้วดูด
ถุงยางไดเกียว ใช้แล้วเครื่องฟิตสตาร์ทติดง่าย
ถุงยางเคียว เซร่า เล็กๆไม่ ใหญ่ๆทำ
ถุงยางยาคูลล์ อยากรู้ถามสาวยาคูลล์ซิค่ะ
ถุงยางตรางู ผมรู้คุณก็ใช้
ถุงยางทาโร่ หันมาใส่ใจตัวเองกันเถอะครับ
ถุงยางซอล เค็มแต่ดี
ถุงยางอีโมฟอม ฟันไม่เสียวอยู่แล้ว
ถุงยางตราม้า ยาวขึ้น ทนอีกต่างหาก
ถุงยางโอริโอ้ ต้องโอริโอ้เท่านั้น
ถุงยางโซดาสิงห์ ทุกหยดซ่าโซดาสิงห์
ถุงยางกระทิงแดง ถุงยางสำหรับลูกผู้ชายตัวจริง
ถุงยางสปอนเซอร์ ทุกครั้งที่(อยาก)เสียเหงื่อ
ถุงยางสวนสยาม ถุงยางแห่งความสุข สนุกไม่รู้ลืม
ถุงยางเบอดี่ หนึ่งเดียวในใจคุณ
ถุงยางทีวี ไดเล็ค ไม่พอใจยินดีคืนเงิน
ถุงยางมามี่โป๊ะโก๊ะ ยิ้มง่าย ไม่ซึมเปื้อน
ถุงยางGood year ถุงยางรีดน้ำสำหรับคุณ
ถุงยางแมกกี้ - เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม 
ถุงยางเวลลอย ลื่นเหลือล้น ทนเหลือหลา

6 เหตุผลยอดฮิต ที่ผู้ชายอ้างเวลาไม่ใส่ถุงยาง


เพื่อนๆ อยากรู้กันบ้างไหมว่า ผู้ชายส่วนใหญ่ ทำไมถึงไม่ชอบใส่ถุงยาง เวลามีเพศสัมพันธ์ ทั้งที่ประโยชน์ของถุงยาง ก็มีตั้งเยอะ และยังหาซื้อง่ายอีกด้วย เรามาดูคำตอบของผู้ชายกันดีกว่า
1.ไม่เสียว หรือไม่สนุก เป็นคำตอบที่ผู้ชายส่วนใหญ่บอกกันมาก อันนี้ก็ไม่รู้ว่าเพราะอะไรเหมือนกันทั้งที่ถุงยาง เขาก็ทำออกมาหลาย เพื่อเพิ่มความสนุกสนานให้กับผู้ใช้ทุกคน ความรู้สึกต่างจากตอนไม่ใส่ถุงยาง อันนี้ถุงยางเขาก็มีแบบบางพิเศษให้เพื่อนๆได้ใช้กัน มันก็น่าจะเหมือนไม่ใส่แล้ว

2.เรามาดูเหตุผลที่ 2 กันต่อ เหตุผลนี้ก็นิยม เหมือนกัน คือไม่กล้าซื้อถุงยาง อายคนขายบ้าง กลัวคนเขาหาว่าอย่างนู้น อย่างนี้ ทำดีไม่ต้องอายใครครับ ซื้อไปเถอะ

3.ไม่ได้เตรียมตัวก่อนมีเพศสัมพันธ์ อันนี้ เราก็ควรจะซื้อถุงยาง เก็บไว้ในกระเป๋าตังบ้าง หรือที่บ้านทิ้งไว้บ้างเพื่อเวลาจำเป็นต้องใช้ถุงยางขึ้นมาจริงๆ ก็สามารถนำหยิบออกมาใช้ได้ทันทีเลย

4.ไม่มีขนาด เหตุผลนี้ คือ ถุงยางเองก็มีหลาย Size หลายขนาดเหมือนกัน ของคุณจะไม่มีสัีก Size เลยหรือไง เราควรเช็คขนาดของตัวเอง และหาซื้อให้ดีก่อน

5.ใช้ไม่เป็น อันนี้มันก็มีวิธีใช้บอกข้างกล่องถุงยางนะครับ แล้วมันก็ไม่ได้ยากอะไรมากมาย ใช้ตามสัญชาตญาณก็น่าจะใช้เป็นแล้ว ทำอย่างอื่นน่าจะยากกว่านี้นะครับ

6.เหตุผลนี้ผมชอบสุด เป็นเหตุผลที่ผู้ชายชอบบอกให้กับผู้หญิงเวลาฝ่ายหญิงบอกให้ผู้ชายใส่ถุงยางคือ เธอไม่รักเขาหรอ อันนี้ไม่เกี่ยวกันเลยใส่ถุงยางแปลว่าไม่รักหรอ แล้วไม่ใส่ถุงยางแปลว่ารักหรอ การใส่ถุงยางก็แสดงถึงความรับผิดชอบ และความเป็นห่วงคนที่คุณรักอีกแบบหนึ่ง เพราะฉะนั้นใส่เถอะ เพื่อคนที่คุณรัก

จากที่อ่านๆ มาเพื่อนๆเคยใช้เหตุผลไหนกันบ้างเอ่ย ^^

วันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ถุงยางอนามัย อะไรที่เหมาะกับคุณ
ถุงยางอนามัย เป็นอุปกรณ์คุมกำเนิด ที่นิยมใช้กันมากที่สุดในขณะร่วมเพศ โดยมีทั้งแบบสำหรับผู้ชายและผู้หญิง ส่วนใหญ่ฝ่ายชายจะเป็นฝ่ายใช้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่น ซิฟิลิส หนองใน และ เอดส์ได้อีกด้วย

ในปัจจุบันถุงยางก็มีหลายแบบ หลายประเภท และหลายขนาด ตามแต่ความนิยมชมชอบของแต่ละบุคคล บางคนชอบถุงยางแบบบางเฉียบ ถุงยางแบบสวมใส่ง่าย ถุงยางแบบชะลอการหลั่ง หรือจะถุงยางแบบเรืองแสงก็มี ดังนั้นทางเว็บ  Zeedcondom จึงได้เขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อแนะนำลูกค้าทุกท่านที่สนใจจะซื้อถุงยาง แต่ไม่รู่ว่าตัวเองต้องการถุงยางแบบไหน ควรซื้อถุงยางแบบไหนถึงจะตอบสนองตามความต้องการของลูกค้า เราก็เลยจะเสนอถุงยางที่ดีที่สุดของเว็บเราตามลำดับความนิยม

1.ถุงยางอนามัยแบบบางเฉียบ
ถุงยางอนามัยแบบบางเฉียบ เป็นสินค้ายอดนิยมที่ทุกท่านคงจะทราบกันดี เพราะว่าความบางเฉียบของตัวถุงยางจึง ทำให้เราได้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ถุงยาง ทำให้เพิ่มอรรถรสในการใช้งาน และรุ่นหรือยี่ห้อที่คนนิยมและคุ้นเคยกันดีนั้นคือ Sagami 0.02 และ Okamoto 0.02 EX ซึ่งถุงยาง 2 ยี่ห้อนี้ ได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป็นอย่างมาก จึงเป็นรุ่นที่คนนิยมใช้กันมาก ( เหมาะสำหรับคนที่ต้องการถุงยางแบบบางๆ )

2.ถุงยางอนามัยผสมสารหล่อลื่น
ถุงยางอนามัยแบบผสมสารหล่อลื่นนั้น จะเพิ่มความคล่องตัวให้กับผู้ใช้ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการถุงยางที่มีความหล่อลื่นเป็นพิเศษ สำหรับยี่ห้อที่นิยมจะมีทั้งของไทย และของต่างประเทศ ของไทยคือ One Touch Oil Plus เป็นรุ่นที่คุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ส่วนของถุงยางต่างประเทศคือ JEX 0.03 USU USU Premiumซึ่ง 2 ยี่ห้อนี้เป็นยี่ห้อถุงยางที่คนนิยมใช้กันมาก

3.ถุงยางอนามัยรสและกลิ่นผลไม้
ถุงยางอนามัยรสและกลิ่นผลไม้ ก็เป็นถุงยางอนามัยอีกชนิดที่คนชื่นชอบเช่นกัน ซึ่งกลิ่นหรือรสผลไม้มีให้เลือกหลายแบบมาก ผู้ชายทุกคนก็ควรมองๆ หากลิ่นหรือรสที่สาวๆ ชอบให้ได้ แต่เราจะมานำเสนอกลิ่นหรือรสที่ คนนิยมมากที่สุดเพื่อช่วยลูกค้าให้ตัดสินใจง่ายขึ้น ขอเริ่มจากกลิ่นที่คุ้นเคยกันดีคือ กลิ่นแอปเปิ้ล ซึ้งจะเป็นกลิ่นออกหวานๆ อมเปรี้ยว สำหรับคนที่ชื่นชอบการทานแอปเปิ้ลห้ามพลาดเด็ดขาด ต่อจากแอปเปิ้ลก็คือ กลิ่นส้มนั้นเอง สำหรับกลิ่นส้มนั้นแค่เพียงได้กลิ่น ก็อาจจะทำให้แฟนสาวของคุณรู้สึกสดชื่นแล้ว นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไม กลิ่นส้มถึงอยู่ในใจของใครหลายๆคน ถัดมาอีกกลิ่นซึ่งมาแรงไม่แพ้กลิ่นส้มที่ก็คือ กลิ่นองุ่น เป็นกลิ่นที่หอมหวานเลยทีเดียว กลิ่นนี้อาจจะทำให้ สาวๆหลงใหลไม่แพ้กัน กับความหอมหวานของมัน และกลิ่นสุดท้ายที่สาวๆ น่าจะชอบกันคือ กลิ่นสตอเบอรี่ สตอเบอรี่ปกติก็เป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของสาวๆ กันอยู่แล้ว เพราะงั้นจึงเป็นกลิ่นที่ห้ามพลาดกันเลยทีเดียว ใครที่ยังไม่เคยใช้ ควรรองหามาใช้ดูสักครั้งแล้วจะไม่ผิดหวังแน่นอน

4.ถุงยางอนามัยแบบมีปุ่ม
ถุงยางอนามัยแบบมีปุ่ม เป็นถุงยางที่เพิ่มความสนุก และอรรถรสมากยิ่งขึ้น ส่วนปุ่มนั้นก็มีหลากหลายแบบมากมาย บางปุ่ม แค่สาวๆ เห็นก็อาจจะทำให้ตื่นเต้นขึ้นมากแล้ว ส่วนที่เราจะมาแนะนำทุกท่านให้รองใช้กัน ก็จะเป็นรุ่นที่คนนิยมมากสุดเช่นเคย นั้นก็คือ  JEX Butterfly Dot บางคนอาจจะไม่คุ้นชื่อแต่คุ้นตา ก็คือผีเสือ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ ของถุงยางตัวนี้นั้นเอง แล้วถุงยางตัวนี้นั้นได้ผ่านการโหวตจากสาวๆ 500คน ทั่วญี่ปุ่นมาแล้ว จึงรับรองความสนุกสนานของทั้งคู่ได้อย่างแน่นอน

5.ถุงยางอนามัยเรืองแสง
ถุงยางอนามัยเรืองแสง บางคนแค่ได้ยินชื่อก็อาจจะงง ว่ามันจะเรืองแสงทำไม รองคิดตามนะครับในยามค่ำคืน ในห้องที่ปิดไฟอยู่ เจ้าถุงยางตัวนี้แหละที่จะเรืองแสงออกมาท่ามกลางความมืดของห้องที่เงียบสงัด มันเป็นสิ่งที่ช่วยเพิ่มความตื่นเต้น และน่าพิศวงมากยิ่งขึ้น มันจึงเป็นถุงยางที่คุณต้องรอง และที่ขาดไม่ได้คือยี้ห้อยอดนิยมนั้นเอง ได้แก่ Shine Light Boy 

6.ถุงยางอนามัยฆ่าเชื้อ
ถุงยางอนามัยฆ่าเชื้อ เชื้อในที่นี้คือเชื้ออสุจินั้นเอง เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและมั่นใจให้สาวๆ เป็นถุงยางที่ทำให้สาวๆ รู้สึกปลอดภัยนั้นเอง แค่นี้คุณก็ไม่ต้องกังวลในเรื่องอะไรอีกแล้ว 

7.ถุงยางอนามัยแบบมีตัวช่วยใส่
ทุกอย่างในสมัยนี้แข่งกับเวลา ถุงยางอนามัยก็เหมือนกัน ปัญหาล่าช้าในการใช้งาน อาจทำให้แฟนสาวของคุณรอจนเบื่อ แค่คุณมีถุงยางอนามัยแบบมีตัวช่วยใส่ แฟนสาวของคุณก็ไม่ต้องรออีกต่อไป ทำให้คุณพร้อมในทุกเวลา สำหรับคนที่ชอบอะไรที่มันง่ายๆ ไม่กินเวลาห้ามพลาดเด็ดขาด ยี้ห้อที่คนนิยมคือ Sagami Original Quick และ UsU-pita Deluxe Quick fit หนุ่มๆอย่าปล่อยให้สาวๆ ต้องรอนานนะ

8.ถุงยางอนามัยแบบใหญ่พิเศษ
ชื่อถุงยางก็บอกไว้อยู่แล้ว ว่าใหญ่จริงๆ มันจะเป็นถุงยางที่สาวๆ เห็นต้องร้องโอ้โห แน่นอน ไม่รู้นะว่าตกใจอะไรกันแน่ แต่หนุ่มๆ ที่รู้ตัวก็ควรหาไปใช้กันบ้าง ยี้ห้อที่คนกลุ่มนี้นิยมกัน Sagami Original L Size

9.ถุงยางอนามัยผสมสารชะลอการหลั่ง
เป็นถุงยางที่ขายดีมากอีกชนิดหนึ่ง ซึ่งตัวถุงยางจะมีสารชะลอการหลั่งช่วยเพิ่มระยะเวลาแห่งความสุข ทำให้ทั้งคู่มีเวลาอยู่ร่วมกันมากขึ้น ยี่ห้อที่คนนิยมใช้กันคือ JEX 0.03 USU USU Premium Slow

10.ถุงยางอนามัยแบบมาตราฐาน
ถุงยางอนามัยแบบมาตราฐาน เป็นถุงยางที่ทำออกมาได้มาตราฐานยังไง ก็คือเหมาะสำหรับคนทั่วไป ทุกอย่างกำลังพอดีๆ ไม่มากไม่น้อยเกินไป และในถุงยางอนามัยแบบมาตราฐานนี้มีหลากหลายยี่ห้อมาก แต่ยี้ห้อที่คนนิยมมากที่สุดคือ Benetton เป็นยี้ห้อไฮโซที่คนนิยมกันมาก

ที่มา  :   www.zeedcondom.com