www.zeedcondom.com

วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

เรื่องน่ากลุ้มของหนุ่มๆ กับถุงยาง


เรื่องน่ากลุ้มของหนุ่มๆ กับถุงยาง
ย้อนกลับไปมองคนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของเรา จะเห็น "ความดก" ของสมาชิกในครอบครัว ซึ่งนักพัฒนาสังคมทั้งหลายเขาระบุว่า บุตรหลานจำนวนไม่จำกัดที่ว่านั้น บ่อนทำลายสภาพเศรษฐกิจของครอบครัว สังคม และประเทศชาติ ตลอดจนเป็นอุปสรรคต่อการยกระดับคุณภาพชีวิต จึงจำเป็นต้องมีการ "วางแผนครอบครัว" และนั่นเอง...กระบวนการ "คุมกำเนิด" จึงเข้ามาเกี่ยวข้องหลังจากนั้น 

การคุมกำเนิดหรือพูดง่ายๆ ว่าการป้องกันการตั้งครรภ์นั้น คนจำนวนหนึ่ง แม้จะ "หลั่งภายนอก" ก็ยังไม่ (ยอม) ทำ นับวัน "7 วันในระยะปลอดภัย" ก็ไม่เป็น ไอ้ครั้นจะให้ใช้ถุงยางอนามัย-ยิ่งเป็นเรื่องยาก ยึกยักโยกโย้อยู่นั่นเอง 

รู้ไหมว่า...ถุงยางอนามัยเกิดขึ้นภายหลังมีสตรีเจ็บป่วยด้วยเหตุว่ายาคุมกำเนิดนั้น ส่งผลข้างเคียงต่อสุขภาพ และการคุมกำเนิดวิธีอื่นก็ยุ่งยากแถมได้ผลไม่เต็ม 100% ในเวลาเดียวกัน ถุงยางก็เกิดขึ้นพร้อมๆ กับความเชื่อผิดๆ ความไม่เข้าใจ และวิธีใช้-ไม่ใช้ ซึ่งพิสดารไปสารพัด ต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เข้าใจถูกบ้างไม่ถูกบ้างเกี่ยวกับ "ถุงยางอนามัย" และทำให้หนุ่มๆ หลายรายกลายเป็นมนุษย์จำพวก "น่าปวดหัว" (ชะมัดยาด!) 

>> ถุงยางอนามัยย่ำยีศักดิ์ศรีความเป็นชายของผม! 
อีตาบ้าเอ๊ย... มันอยู่ตรงไหนกันเล่า ไอ้ศักดิ์ศรีความเป็นชายที่ถุงยางอนามัยไม่มีสิทธิไปครอบหรือควบคุมมันน่ะ ถุงยางอนามัยจะครอบลงไปก็ต่อเมื่ออวัยวะเพศชายแข็งตัว ตราบเท่าที่มันยังแข็งตัว ก็แสดงว่าศักดิ์ศรีความเป็นชายยังใช้การได้เต็มที่ ยิ่งปัจจุบันพัฒนาถุงยางอนามัยนั้น ได้รับการคุณภาพเนื้อยางมาเป็นอย่างดี บางเฉียบ จนไม่มีส่วนลดทอนความรู้สึกหรือสัมผัสใดๆ ที่องคชาตจะได้รับ คุณยังคงสอดใส่ได้ ให้อีกฝ่ายทำออรัลก็ยังซาบซ่าน จะโยกยักปักป่ายท่าไหนก็กระสันเสียวได้เหมือนเดิม เว้นแต่ยามหลั่ง น้ำรักของคุณถูกขังอยู่ในถุงก็เท่านั้น เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเชื้อทะยานเข้าไปผสมกับไข่ ปฏิสนธิ แล้วเกิดการตั้งครรภ์เท่านั้นเอง ถ้าศักดิ์ศรีความเป็นชายหมายถึงความพร้อมที่จะรับผิดชอบและดูแลฝ่ายหญิงได้อย่างดี มีสุข รวมไปถึงลูกๆ ทุกคนที่จะเกิดมา อย่างนั้นก็ไม่ต้องมาใช้ถุงยางอนามัย เนื้อแนบเนื้อ ใจแนบใจ ปล่อยให้สายธารรักพุ่งทะยานเข้าสู่ภายในได้สุดๆ ได้ตามใจชอบ 

>> ผมคิดว่าการใช้ถุงยางอนามัยไม่เป็นธรรมชาติ ถ้าจะใช้วิธีนับวันหรือระยะปลอดภัย จะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ 100% หรือเปล่า 
ไม่ได้! ผู้หญิงเดี๋ยวนี้ยิ่งอันตรายรู้หรือเปล่า-เพราะประจำเดือนของพวกเธอมักมาไม่ค่อยปกติ คลาดเคลื่อนเลื่อนกำหนดอยู่เป็นประจำ เป็นเหตุให้นับวันก็ผิดพลาดได้เสมอ แล้วอันที่จริง การคุมกำเนิดด้วยการเลี่ยงวันอันตรายมันได้ผลสัก 40-50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง นับผิดนับพลาดเมื่อไหร่ได้ลูก คนทันที อย่างนี้จะเสี่ยงหรือเปล่าล่ะ ความจริงแล้ว...ไอ้การรู้สึกไม่เป็นธรรมชาตินั้น เพราะไปยึดติดกับถุงยางที่สวมอยู่ ลืมๆ มันไปบ้างไม่ได้หรือไง หันไปสำรวจสัมผัสทางความรู้สึกให้ชัวร์ ก็จะพบว่ามันเหมือนเดิม (น่ะแหละ) อีกอย่างต้องไม่ลืมว่า ถุงยางอนามัยไม่ได้ทำหน้าที่แค่ช่วยป้องกันการตั้งครรภ์เท่านั้นนะ ยังช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อีกหลายชนิดด้วย ตรงนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญไม่น้อย! >> จริงไหมที่ถุงยางอนามัยไม่สามารถป้องกันเชื้อเอดส์ หรือไวรัสเอชไอวีได้ เพราะเชื้อมีขนาดเล็กมาก 
ไม่จริง... เพราะผลจากการศึกษาในห้องทดลองยืนยันว่า เชื้อเอชไอวีไม่สามารถลอดผ่านเนื้อเยื่อของถุงยางอนามัยได้ เว้นแต่จะใช้ถุงยางเสื่อมสภาพหรือเกิดการฉีก แตก ระหว่างร่วมรัก ซึ่งเกิดขึ้นได้น้อยมาก จะเกิดขึ้นในกรณีที่มีการร่วมเพศกันอย่างรุนแรง หรือเปลี่ยนท่วงท่ามากและใช้เวลาในการร่วมรักนานเกินปกติ ถุงยางอนามัยที่ได้รับมาตรฐาน ISO 4074 พบสถิติการมีรูรั่วเพียง 0.4% ปัจจุบันถุงยางส่วนใหญ่พบรูรั่วเพียง 0.2% เท่านั้น และในการประชุมโรคเอดส์โลกครั้งหลังสุดเมื่อไม่นานมานี้ที่ประเทศไทยของเราเอง ถุงยางอนามัยก็ยังได้รับการยืนยันว่า ยังเป็นเครื่องมือในการป้อนกันการติดเชื้อเอดส์จากเพศสัมพันธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในทุกวันนี้ >> ทำไมถุงยางอนามัยต้องมีหลายสีหลายกลิ่นด้วย 
อ้าว! ไม่ชอบหรือไง สีและกลิ่นเหล่านั้นเป็นการเติมลงไปเพื่อเพิ่มระดับความพึงพอใจของผู้ใช้ไงเล่า ทำให้เกิดความคุ้นเคยและไม่รังเกียจถุงยางอนามัย โดยเฉพาะในกรณีที่มีการทำออรัลเซ็กซ์ด้วยการดูดอมองคชาต กลิ่นที่ปรุงแต่งเข้าไปจะช่วยให้เกิดความพึงพอใจ สนุก และลืมอาการรังเกียจถุงยางหรือไม่กล้าดูดอมองคชาตได้ กลิ่นและสีดังกล่าวผลิตจากสารที่ปลอดภัย ไม่มีอันตราย แม้จะมีการดูดกลืนเข้าไปในร่างกาย รวมทั้งไม่ก่อการระคายเคืองให้แก่ผู้สวมใส่และผู้ถูกสอดใส่ด้วย อย่างไรก็ตาม หากไม่ชอบกลิ่นสีที่ปรุงแต่งเหล่านี้ ถุงยางอนามัยชนิดไม่มีกลิ่น ไม่มีสี ก็ยังมีจำหน่ายอยู่ (นี่หว่า) >> ใช้ถุงยางอนามัยแล้วคัน เกิดจากมันใช่มั้ยเนี่ย 
ใช่แล้ว บางคนอาจแพ้ยางธรรมชาติซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตถุงยางได้ บางคนแพ้สารหล่อลื่นที่เคลือบอยู่ด้านนอก แต่กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นไม่มาก หากเกิดขึ้นให้ลองเปลี่ยนชนิดหรือยี่ห้อดู หากยังแพ้อยู่ให้เปลี่ยนไปใช้ถุงยางอนามัยที่ผลิตจากโพลียูรีเทนแทน


>> สวมถุงยางอนามัยหลายชั้นช่วยให้อึด-ทน-นาน...จริงหรือ 
ไม่จริง...เป็นความเชื่อมากกว่า แต่ก็นั่นแหละนะ ถ้าใส่หลายๆ ชั้นแล้วมั่นใจก็ทำไปเถอะ ความมั่นใจจะช่วยให้อาการตื่นเต้นลดลง หรือความวิตกกังวลลดลง นั่นทำให้การร่วมรักราบรื่นขึ้น แต่อย่าให้เกินสามชั้นเลยนะ อึดอัดและสิ้นเปลืองเปล่าๆ บางคนสวมสองสามชั้นเพื่อความมั่นใจว่าถุงยางอนามัยจะไม่รั่ว ไม่แตก เช่นนั้นก็รอบคอบดี >> บางคนบอกว่า สวมถุงยางอนามัยกลับด้านจะให้ความรู้สึกดีกว่า 
นึกไม่ออกว่าจะดีกว่าอย่างไร เพราะถุงยางอนามัยถูกออกแบบโดยให้ด้านนอกมีสารหล่อลื่นเคลือบอยู่ เพื่อให้การร่วมรักไม่ฝืดฝืน ด้วยว่าหญิงสาวจำนวนหนึ่ง มีน้ำหล่อเลี้ยงในช่องคลอดน้อยเวลาร่วมรัก บ่อยครั้งทำให้เธอเจ็บปวดมากกว่าสุขสม ดังนั้น หากสวมถุงยางกลับด้านแล้ว มันไปลื่นอยู่กับลึงค์ของคุณ มันจะรู้สึกดีกว่าได้ยังไงกัน...จอร์จ แถมมันยังอาจทำให้การร่วมรักลำบากขึ้นได้ อีกอย่างสารหล่อลื่นที่เคลือบอยู่นั้น บางครั้งมีสารที่ช่วยฆ่าเชื้อโรคและเชื้ออสุจิที่อาจเล็ดลอดออกมาด้วย เพราะฉะนั้นสวมมันตามปกติเถอะ




>> ขอทราบ "วิธีใช้ถุงยางอนามัยให้ปลอดภัยและสุขสม" 
การใช้ถุงยางไม่ใช่เรื่องยาก ไม่มีขั้นตอนวุ่นวายอะไร และถุงยางมีความเหนียวพอ ไม่แตกง่ายในการสวมใส่อย่างปกติ ย้ำ-อย่างปกติ! การสวมใส่ทำได้ง่ายๆ เพียงฉีกซองตามตำแหน่งที่ระบุ ดึงถุงยางออกมา มือซ้ายบีบกระเปาะปลายถุง มือขวารูดตัวถุงยางลงสวมอวัยวะเพศที่แข็งตัวอยู่ รูดลงไปให้สุด ถุงยางมีขนาดให้เลือก โปรดเลือกตามความเหมาะสม หนุ่มๆ ที่ไม่เคยใช้มาก่อนควรซื้อมาทดลองสวมดูตามลำพัง ก่อนจะไปเก้ๆ กังๆ ให้เสียจังหวะขณะร่วมรัก เมื่อร่วมรักและบรรลุจุดสุดยอดแล้ว ให้ถอนลำรักออกจากอวัยวะเพศหญิงในระหว่างที่ยังแข็งตัวอยู่ 

อย่างไรก็ตาม ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ สาวๆ หลายคนอาจพอมีวิธีรับมือกับหนุ่มๆ ที่ชอบทำเรื่องน่ากลุ้มเช่นนี้อยู่บ้างแล้ว ความจริงที่ผู้หญิงควรทราบก็คือว่า อย่าไปใจอ่อนให้ผู้ชายช่างอ้อน แต่ไม่ส่อแววของความรับผิดชอบเป็นอันขาด เพราะผิดพลาดขึ้นมาประการใด กุมารน้อยนั้นเป็นตัวเป็นตนและเติบใหญ่อยู่ในครรภ์ของผู้หญิงนะ (บอกไว้กันลืม-แหะๆ) 

ที่สำคัญอย่างยิ่งยวดก็คือว่า ถุงยางอนามัยช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ซึ่งอาจโดยสารมากับหนุ่มๆ ที่รักของคุณด้วย!!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น